^ Back to Top

นิทรรศการ "Manifest Destiny"

นิทรรศการ "Manifest Destiny"

นิทรรศการ "Manifest Destiny" ผลงานโดย อานนท์ เลิศพูลผล (Arnont lertpullpol) จัดแสดงระหว่างวันที่ 3 - 24 กันยายน 2565 และจะมีพิธีเปิดในวันที่ 3 กันยายน 2565 เวลา 18.00 น. ณ Number 1 Gallery : นัมเบอร์ วัน แกลเลอรี่

number1gallery : Silom
.
Manifest Destiny
Arnont lertpullpol
3rd -24st September 2022
.
In collaboration with Number 1 Gallery, "Manifest Destiny" is the solo exhibition displaying a series of exquisite oil paintings by Arnont Lertpullpol. The masterpieces that capture a special attention are the depiction of crowds of ragged people or disheveled soldiers with monstrous faces and blank stares who are striving to survive and the one with a person whose suspicious smile completely conceals his villainy. Some of the paintings are produced by intentionally deposited hues while others simply by the drawing of lines, instantaneous movement of brushstrokes and exquisite colouring. These techniques are utilised to elucidate problems in politics, international relations, human relationships, competition for personal advantages and wars, provoked by world leaders and undeniably causing inestimable damage to mankind.

There are three movements serving as a foundation for "Manifest Destiny". First is racism —skin colour discrimination— where it is believed that those of a particular skin colour possess qualities and traits superior to others of skin colours different than theirs. Second is nationalism and the last one is expansionism, which is rather evident nowadays where certain countries emerged as world leaders in 20th century due to their increasing supplies of lethal weaponry, military resources and intention to initiate war. Such practices are exploited as a means to imposing their own political dogma on others so as to homogenise mankind irrespective of philosophical and cultural differences and to reap benefits for personal advantages deliberately without taking moral and ethical principles into consideration. Or is this the nature of what is called "power"?

Through oil paintings that feature humans and varied events, "Manifest Destiny" is the exhibition that reflects awareness of moral conflicts and ethical principles adhered by humans to justify and legitimise their own actions. Even though people assure that their courses of actions are just and morally justified, what appears in the news every day is, however, dominated by dreadful wars and inhumane crimes. The artist not only expresses these atrocities through the finished paintings but also reveals them since the initial process of sketching by leaving some traces as minuscule blank spaces to be coloured thickly and neatly where each colour stays in its own space without blending with each other. The artist uses this method to reminisce his childhood where he had to apply each colour in the line strictly to each blank space and when all of them were coloured, there emerged the whole picture in front of the young artist. While this approach may restrict his creative potentials, it is perfectly in keeping with the three movements upon which “Manifest Destiny” is based.
.
"Manifest destiny" คือนิทรรศการเดี่ยวของ อานนท์ เลิศพูลผล ร่วมกับนัมเบอร์วันแกลลอรี่  ภายในนิทรรศการนำเสนอภาพผลงานจิตรกรรมสีน้ำมัน โดยส่วนสำคัญคือภาพของคนหรือกลุ่มทหารที่มีความดิบเถื่อนยืนเบียดเสียดแออัด ที่มีใบหน้าโหดร้ายถ่ายทอดสายตาว่างเปล่าราวกับแก่งแย่งเพียงเพื่อเอาชีวิตรอด หรือภาพบุคคลที่สะเเหยะยิ้มเพียงเพื่อปิดบังซ่อนเร้นความเหี้ยมโหด โดยภาพผลงานทางจิตรกรรมที่บางส่วนนั้นเต็มไปด้วยเนื้อสีที่ทับทมพูนพอก บางส่วนก็เว้นไว้เพียงร่องรอยของการdrawingถูกลากเส้นด้วยประสาทสัมผัส การใช้ฝีแปรงที่มีความเคลื่อนไหวฉับพลัน การระบายอย่างเหมือนจริงด้วยความเรียบเนียน แสดงออกด้วยภาษาของเทคนิคอย่างหลากหลายโดยมีหมุดหมายเพื่อถ่ายทอดเนื้อหาเรื่องราวที่สะท้อนจากปัญหาทางด้านการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความขัดแย้ง เเย่งชิงซึ่งผลประโยชน์ การก่อสงครามของประเทศมหาอำนาจ ทั้งหมดเหล่านี้นั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าล้วนส่งผลกระทบต่อผู้คนในยุคปัจจุบัน

หากจะกล่าวถึง“พื้นฐาน 3 ประการของ Manifest destiny หนึ่ง ลัทธิที่เชื่อว่าชนชาติตนนั้นมีความพิเศษเหนือชาติอื่น เช่น การเหยียดผิว และเชื่อว่าคนที่มีสีผิวอย่างตนเองนั้นมีศักยภาพเหนือกว่าชาวผิวอื่น เรื่องที่สอง คือ ลัทธิชาตินิยม เรื่องที่สาม คือ เชื่อมั่นในการเผยแพร่ขยายอาณาเขต จึงไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยที่จะพูดได้ว่าประเทศมหาอำนาจบางประเทศก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของโลกในศตวรรษที่ 20 ด้วยปลายปากกระบอกปืน ความเข้มแข็งของกองทัพ การทหาร และการก่อสงครามอย่างต่อเนื่องปลูกฝังจินตนาการทางการเมืองเพื่อต้องการให้ทุกคนเป็นเหมือนตนเอง โดยไม่ได้สนใจปรัชญาและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตของผู้อื่น ยึดถืออย่างเดียว คือผลประโยชน์ ความโลภ ตนเอง ไม่สนใจความถูก ความผิด ศีลธรรมใดๆ ทั้งสิ้น หรือนั่นก็คือธรรมชาติของ "อำนาจ" นี่เอง

Manifest destiny จึงเป็นนิทรรศการงานจิตรกรรมภาพคน และสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นและตระหนักถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งทางศีลธรรม คุณธรรม ที่มนุษย์ย่อมมีเหตุผลเพื่อหาความถูกต้องและความชอบธรรมให้กับการกระทำ เมื่อทุกคนมีเหตุผลและทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ภาพที่ปรากฏปัจจุบันคือสงครามและการหลั่งเลือด ด้วยภาพผลงานจิตกรรมที่ไม่ใช่เพียงการใช้ภาพแทน แต่เปิดเผยกระบวนการตั้งแต่การร่างภาพ จนจบภาพสุดท้ายที่เสร็จสมบูรณ์โดยการทิ้งเค้าโครงของบางขั้นตอนไว้ ระบายสีลงไปตามช่องด้วยสีหนาไม่ให้สีผสมเข้าหากันตามขอบเขตของแต่ละช่อง เหมือนกับสมุดวาดภาพระบายสีเมื่อตอนเป็นเด็กที่ใช้สีไม้หรือสีเทียนสีชอล์กระบายลงไปตามขอบเขตที่กำหนดไว้ให้แล้วอย่างชัดเจนเมื่อระบายจนเต็มครบทุกช่องภาพก็จะปรากฏออกมาสวยงาม สมบูรณ์แบบ แต่ในขณะเดียวกันวิธีการนี้ก็ขาดอิสระในจินตนาการ เทคนิคการเขียนแบบนี้ได้สอดคล้องล้อเลียนไปกับพื้นฐาน 3 ประการของ Manifest destiny นั่นเอง.
.
More info
083 445 8333 (Khun Ririta)
092 508 3111 (Khun Nutta)

Exhibition date: 
3 Sep 2022 - 10:00 to 24 Sep 2022 - 19:00