นิทรรศการ "Mirror Mirror on the wall Who is the Fairest of Them All"

นิทรรศการ "Mirror Mirror on the wall Who is the Fairest of Them All" ผลงานโดย จักรพงศ์ สิริริน (Jakpong Siririn) หรือสอง Paradox จัดแสดงระหว่างวันที่ 6 - 28 มิถุนายน 2565 และจะมีพิธ๊เปิดในวันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2565 เวลา 16.00 น. ณ 6060 Arts Space

พบกับอีกมุมนึงที่หลายคนยังไม่เคยเห็น ของศิลปิน
คุณสอง มือเบส วงพาราด็อกซ์ ซึ่งผลิตผลงานศิลปะสะสมไว้เป็นจำนวนมาก นิทรรศการนี้ คุณสองได้เลือกสรรค์ผลงานมาให้พวกเราได้ชมกันกับนิทรรศการ...

“ Mirror Mirror on the wall Who is the Fairest of Them All ”
The first solo exhibition of Jakpong Siririn (Song Paradox)

6 – 28 June 2022
@6060 Arts Space

Grand Opening : Saturday, June 4th 2022
Time : 4 pm to 8 pm
Facebook : 2dox tv , IG : 2doxart

ชื่องาน : Mirror Mirror on the wall Who is the Fairest of Them All
Artist : Jakpong Siririn (Song Paradox)
6 – 28 June 2022

จากทฤษฎีรอยหยดหมึกรูปร่างต่างๆ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ แบบทดสอบรอร์ชัค (Rorschach test) ซึ่งนักจิตวิทยาบางคนใช้การทดสอบรูปแบบนี้เพื่อตรวจสอบลักษณะทางบุคลิกภาพและการทำงานทางอารมณ์ โดยให้ผู้ที่ร่วมทดลองอธิบายถึงสิ่งที่เห็นในรูป เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ผ่านการแปลความหมาย เป็นที่มาของแรงกระตุ้นและความสนใจในสิ่งที่อยู่ภายใต้จิตสำนึกของคน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของนิทรรศการศิลปะครั้งแรกของจักรพงศ์ สิริริน หรือที่รู้จักในชื่อ สอง พาราด็อกซ์

ความหลงใหลในทฤษฎีรอยหยดหมึกของรอร์ชัค ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการนำสีอะคริลิคมาหยดลงบนกระดาษแล้วพับครึ่ง ทั้งสองด้านจะเกิดเป็นรอยสีที่มีรูปร่างเหมือนกันราวกับส่องกระจก จากนั้นเขาจะเริ่มสร้างสรรค์แต่งเติมรอยสีทั้งสองด้านด้วยปากกาหรือสีสันอื่นๆเพิ่มเติม โดยรูปร่างและลักษณะของผลงานที่ออกมาสองไม่เคยกำหนดไว้ก่อนว่าจะมีรูปแบบอย่างไร ทุกครั้งที่วาดหรือลงสีเขารู้สึกว่ามันคือการทำงานผ่านจิตใต้สำนึกและมักคิดว่านี่คือการวาด Self Portrait ของตัวเอง

รูปวาดจึงเหมือนการแสดงตัวตนหรืออารมณ์ในแต่ละช่วงเวลาออกมาไม่ต่างจากการส่องกระจก เพียงแต่การประมวลผลภาพที่เห็นอาจต่างกันไปตามประสบการณ์ ความคิดและความรู้สึกที่ส่งมาจากจิตใต้สำนึก กระจกบานเดียวกันจึงอาจสะท้อนให้เห็นสิ่งที่แตกต่างกันก็เป็นได้

ซึ่งนอกจากภาพวาดที่มีจุดเริ่มต้นจากการหยดสีลงบนกระดาษแล้วพับครึ่ง สองยังมีเทคนิคอื่น ๆที่ต่อยอดเรื่องราวของเขาผ่านผ้าใบขนาดใหญ่ไล่ไปจนเล็กจิ๋ว รวมถึงการจัดวางที่แฝงความสนุกปนสงสัย ซึ่งสะท้อนตัวตนของเขาออกมาได้อย่างน่าสนใจ เราจึงอยากเชิญชวนทุกคนมาลองสัมผัสตัวตนอีกด้านหนึ่งของ สอง พาราด็อกซ์ ผ่านนิทรรศการครั้งนี้