^ Back to Top

นิทรรศการ "The Smell in The Air After The Firecracker Has Gone Off"

นิทรรศการ "The Smell in The Air After The Firecracker Has Gone Off"

นิทรรศการ "The Smell in The Air After The Firecracker Has Gone Off" ผลงานโดย ภัทระ จันทร์ฤาชาชัย (Pattara Chanruechachai) จัดแสดงระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2562 และจะมีพิธีเปิดในวันที่ 27 กรกฎาคม 2562 เวลา 19.00 น. ณ แกลเลอรี่เว่อร์ : Gallery VER

The Smell in The Air After The Firecracker Has Gone Off
By Pattara Chanruechachai
Venue: Gallery VER
Date: 27th July - 31st August, 2019
Opening Reception: 27th July 2019, 7pm onward

curators: Pratchaya Phinthong Udomsak Krisanamis

The Smell in The Air After The Firecracker Has Gone Off
โดย ภัทระ จันทร์ฤาชาชัย
สถานที่: แกลเลอรี่ เวอร์
ระยะเวลา: 27 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562
พิธีเปิด: 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

ภัณฑารักษ์: ปรัชญา พิณทอง อุดมศักดิ์ กฤษณมิษ

การผสานกันของภาพถ่าย ประติมากรรม งานวาดเส้น และการจัดวาง คือรูปแบบการทำงานของภัทระ และด้วยการทำงานกับสื่อที่หลากหลาย และรูปแบบที่ไม่จำกัดนี้เอง ทำให้นัยยะทางเวลาในผลงานของภัทระเผยให้เราเห็นการอยู่ร่วมกันของอดีตและปัจจุบันในลักษณะต่างๆ ภัทระสนใจการเชื่อมโยงระหว่างภาพถ่ายกับวัตถุ ภาพ หรือเทคโนโลยีจากอดีต จากเรื่องราวที่ถูกค้นพบขึ้นอีกครั้ง พื้นที่ที่ถูกทิ้งร้าง หรือภาพที่ถูกหลงลืม ภัทระกลั่นกรองแนวคิดเหล่านี้ และนำเสนอสิ่งที่ปรากฎ ควบคู่กับสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ในกาลเวลา

นิทรรศการ The Smell in The Air After The Firecracker Has Gone Off ประกอบไปด้วย ผลงานประติมากรรมเซรามิก ที่ถอดแบบกล้องที่ใช้ในภารกิจอะพอลโล 11 ผลงานวาดเส้นภาพชิ้นส่วนยานอวกาศ และภาพฝุ่นควันจากการปล่อยจรวด รวมถึงงานวาดเส้นโดยเครื่องจักรกลที่อาศัยจังหวะและการเคลื่อนที่ รวมถึงการเหลื่อมซ้อนทับกันของเวลาในการสร้างภาพเหล่านั้น เราอาจบอกได้ว่าจุดเชื่อมโยงของการถ่ายภาพ และศาสตร์แห่งดวงดาว คือเรื่องของแสง และสิ่งที่อยู่นอกเหนือขอบเขตการรับรู้ สำหรับภัทระแล้วภาพถ่ายเป็นเหมือนจุดเริ่มต้น สู่การทำงานกับสื่ออื่นๆ ผ่านการค้นคว้า ซึ่งบางครั้งจากเพียงชิ้นส่วนย่อยๆ หรือองค์ประกอบจำเพาะของบางสิ่งบางอย่าง ที่เป็นเหมือนจุดอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ ที่ประกอบกันเป็นเรื่องเล่าและจินตนาการ

ผลงานส่วนใหญ่ของภัทระคือการขยายต่อความสนใจที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมโยงกับผลงานภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องกับ “พื้นที่ที่ถูกลืม” และ “อาคารร้าง” สถานที่ซึ่งก่อรูปขึ้นด้วยสิ่งที่เราไม่อาจสัมผัส หรือพื้นที่ที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตาเปล่า ผลงานชุดล่าสุดของภัทระเชื้อเชิญให้คุณเดินทางจากพื้นโลกสู่ห้วงจักรวาล ผ่านการเคลื่อนย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งของเหล่าวัตถุกักเก็บที่เราไม่รู้จัก และเรื่องเล่าคู่ขนานระหว่างสิ่งที่มองเห็น และสิ่งที่ไม่ปรากฏ

เกี่ยวกับศิลปิน:
ภัทระ จันทร์ฤาชาชัย เกิดเมื่อปีพ.ศ. 2514 ที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันอาศัยและทำงานที่ประเทศฝรั่งเศส
ภัทระเคยร่วมแสดงผลงานนิทรรศการกลุ่มในระดับนานาชาติ อาทิเช่น All Time High (Gallery Ver กรุงเทพฯ พ.ศ.2561) I know you (Irish Museum of Modern Art ดับลิน ประเทศไอร์แลนด์, พ.ศ.2556); Safe Place in the Future (?) Dystopia Now Utopia never (Museum of Contemporary art and design มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ พ.ศ.2556) Temporary Storage (Bangkok Art and Culture Centre กรุงเทพฯ พ.ศ.2555) Retro-Verspective (Gallery Ver กรุงเทพฯ พ.ศ.2555) Arte Fiera, (โบโลญญา ประเทศอิตาลี พ.ศ.2555) Safe Place in The Future II/ Dystopia now, Utopia never (Jim Thompson Art Center กรุงเทพฯ พ.ศ.2555) Asia Contemporary Art Project: City_net Asia 2011 (กรุงโซล ปรเทศเกาหลีใต้ พ.ศ.2554) Bangkok Density (Biagiotti Progetto Arte ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี พ.ศ.2554) Young Ladies, old chaps, and some Thai friends (Spazio A Gallery ปิสโตยา ประเทศอิตาลี พ.ศ.2552) Fifteen (Collectif Nai ประเทศฝรั่งเศส พ.ศ.2551) Eternal Flame: Imagining a Future at the End of the World (Gallery at REDCAT ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา พ.ศ.2550) Belief (Singapore Biennale, Tanglin Camp ประเทศสิงคโปร์ พ.ศ.2549) Here and Now (About Café กรุงเทพฯ พ.ศ.2547) ภัทระแสดงนิทรรศการเดี่ยว Glance left and right ที่ Gallery Ver เมื่อปีพ.ศ. 2554

------------//-------------

Pattara's artistic practice comes in different forms, combining photography, sculpture, drawing and installation. This range of disciplines allows him to express the time in various ways, in which the past inhabits the present. He explores the relation of photography with objects, images or technology from the past. By recovering stories, neglected space or forgotten images, he highlights the disappearances or appearances at the passage of time while sublimating them

The exhibition includes ceramic sculpture (famous replicas of the cameras of the Apollo XI mission)and drawings (space craft, rockets launch dust), as well as an ingenious drawing machine activated for a given time incarnating by the rhythm of time and its overlaps. Like astronomy, photography shares the same interest for light and what lies beyond our perceptions. Photography becomes for him a starting point which allows him a transposition towards other mediums. He extracts from his research sometimes elusive fragments or a particular element allowing to pass off historical references while incarnating a form of sublime fiction and imaginary.

Pattara’s works are an extension of his ongoing interest to connect his previous photographic artworks of “forgotten spaces” and “ghost buildings” with places incarnated by spirits or not visible to the naked eye. An invitation to travel beyond earthly space to the Universe, in a transposition of the receptacle objects of the unknown, a fiction between visible and invisible.

About the artist:
Pattara Chanruechachai (born in 1971, Bangkok; lives and works in France) Pattara was involved in numerous international group exhibitions including All Time High (Gallery Ver, Bangkok, 2018); I know you (Irish Museum of Modern Art, Dublin, Ireland, 2013); Safe Place in the Future (?) Dystopia Now Utopia never (Museum of Contemporary art and design, Manila, Philippine, 2013);Temporary Storage (Bangkok Art and Culture Centre, Bangkok, 2012); Retro-Verspective (Gallery Ver, Bangkok, 2012); Arte Fiera, (Bologna, Italy, 2012); Safe Place in The Future II/ Dystopia now, Utopia never (Jim Thompson Art Center, Bangkok, 2012); Asia Contemporary Art Project: City_net Asia 2011 (Seoul, South Korea, 2011); Bangkok Density (Biagiotti Progetto Arte, Florence, Italy, 2011); Young Ladies, old chaps, and some Thai friends (Spazio A Gallery, Pistoia, Italy, 2009); Fifteen (Collectif Nai, France, 2008); Eternal Flame: Imagining a Future at the End of the World (Gallery at REDCAT, Los Angeles, USA, 2007); Belief (Singapore Biennale, Tanglin Camp, Singapore, 2006); Here and Now (About Café, Bangkok, 2004) Pattara has his solo show Glance left and right at Gallery Ver in 2011.

Exhibition date: 
27 Jul 2019 - 12:00 to 31 Aug 2019 - 18:00