นิทรรศการศิลปะ "The Garden of God"

Submitted by mod on Mon, 2017-10-30 10:30

นิทรรศการศิลปะ "The Garden of God" ผลงานโดย เกรียงไกร กงกะนันทน์ (Kriangkrai Kongkhanun) จัดแสดงระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน - 12 ธันวาคม 2560 และจะมีพิธีเแิดในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2560 เวลา 19.00 น. ณ DUKE Contemporary Art Spac

นิทรรศการศิลปะ ‘The Garden of God’

DUKE Contemporary Art Space
Gaysorn Village, 1st floor
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.

เรื่อยมาตั้งแต่อดีตกาล มนุษย์ดำรงชีวิตและพัฒนารูปแบบการดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด ปลูกฝังกันมา ผ่านวิวัฒนาการจากรุ่นสู่รุ่น เกิดเป็นสัญชาติญาณของการดำรงชีวิตโดยมีสำนึกถึงความตายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ติดตัวมนุษย์เราในแต่ละยุคสมัยมาจนถึงในปัจจุบัน สำนึกถึงความตายนี้เองพัฒนาลักษณะทางกายภาพของความกลัว ทำให้เกิดศาสนาโบราณ และรูปแบบพิธีกรรมต่างๆ ที่สะท้อนถึงแนวความคิดที่มีต่อชีวิตหลังความตาย งานศิลปะทั้งในโลกตะวันตกและโลกฝั่งตะวันออกต่างก็มีการนำเรื่องราวของโลกหลังความตายที่มีความเป็นนามธรรมนี้ ออกมานำเสนอผ่านจินตนาการของศิลปินไว้อย่างหลากหลาย ความน่าสนใจอย่างหนึ่งคือศิลปินเหล่านี้ต่างแสดงถึงแนวความคิดเรื่องโลกหลังความตายคล้ายคลึงกัน ในรูปแบบของการแบ่งพื้นที่ของดินแดน หลังความตายไว้หลายระดับด้วยกัน ซึ่งแต่ละระดับนี้เองเป็นผลสะท้อนมาจากพฤติกรรมของแต่ละบุคคลที่กระทำ ระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ ถึงปัจจุบันภาพของดินแดนหลังความตายยังคงได้รับการผลิตซ้ำ ผ่านสัญญะแห่งจิตวิญญาณภายในของมนุษย์ในรูปลักษณ์ที่หลากหลาย ที่จิตรกรได้นำเรื่องราวของความเป็นมนุษย์ที่มีความหลากหลายทางอารมณ์ และความรู้สึก มีสภาวะที่เป็นคู่ตรงกันข้ามระหว่างด้านลบและด้านบวกภายในหนึ่งบุคคล

นิทรรศการศิลปะ ‘The Garden of God’
โดยศิลปินเกรียงไกร กงกะนันทน์
นำเสนอจินตนาการที่มีต่อสวนในดินแดนลึกลับ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเทพเจ้าที่มนุษย์ให้ความเคารพและบูชา ด้วยเป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิตที่มั่งคั่ง มั่นคง ไปด้วยความสุขและปรารถนาที่สมหวัง โดยศิลปินเลือกเอาเรื่องราวของเทพเจ้าเหล่านี้ที่มีมายาวนานตามความเชื่อทางศาสนา มาใช้เป็นองค์ประกอบหลักในการสำรวจถึงสภาวะทางความรู้สึกของมนุษย์ ถึงความปรารถนาไม่มีที่สิ้นสุด อันเป็นจุดเริ่มต้นของความอยากมี อยากเป็น อยากได้ กลายเป็นหนึ่งในภาพสะท้อนของกิเลสของมนุษย์ทุกคน ขับเคลื่อนให้เกิดด้านมืดภายในจิตใจที่ผลักดันให้เกิดการกระทำต่างๆ ของมนุษย์มิรู้จบสิ้น ภาพของเทพเจ้าและสัญลักษณ์มงคลเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของความต้องการบางอย่างภายในจิตใจของมนุษย์ พัฒนาและก่อร่างสร้างให้เกิดเป็นรูปธรรมของอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ เหล่านี้ กลายเป็นสัญลักษณ์มงคลในความเชื่อแต่ละศาสนา ได้รับการเคารพและบูชามาอย่างยาวนานกว่าศตวรรษ

The Garden of God จึงเป็นหนึ่งในจินตภาพของศิลปินที่มีต่อสวนในดินแดนลึกลับ ที่รวบรวมไว้ด้วยเทพเจ้าต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์มงคล หรือตัวแทนของความดีงาม แต่กลับแฝงไว้ด้วยเรื่องราวภายในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยกิเลสของความอยากได้ อยากมี ไม่ต่างกันกับภาพที่บอกเล่าเรื่องราวของนรกซึ่งรวบรวมไว้ด้วยจิตวิญญาณด้านมืดของคนในภาพลักษณ์ที่บิดเบี้ยว เช่นเดียวกับผลงานของศิลปินชุด Spiritual Disease ที่ทำการสำรวจแง่มุมด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ทุกคน โดยทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนภาพลักษณ์ที่แท้ภายในของมนุษย์นอกเหนือจากภาพลักษณ์ที่สวยงาม เมื่อมนุษย์เอาชนะความกลัวที่มีมาแต่อดีตด้วยการสร้างนิยาม ให้ความหมายและพัฒนารูปทรงของความกลัว ให้เกิดขึ้นในจินตนาการได้ ความต้องการดำเนินชีวิตของมนุษย์จึงก้าวข้ามไปจากความพยายามในการดำรงชีวิต พัฒนาไปสู่อารมณ์ปรารถนาของการมีชีวิตที่ดี กลายเป็นรูปลักษณ์ของเทพเจ้าผู้มอบความสมหวังให้แก่ผู้ที่เคารพบูชาตน

ซึ่งเรื่องราวของเทพเจ้าเหล่าที่ปรากฎในนิทรรศการ ‘The Garden of God’ โดยเกรียงไกร กงกะนันทน์ครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้เห็นถึงกิเลสอันท่วมท้นในตัวตนของมนุษย์ทุกคนแล้วนั้น ยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเรื่องราวความต้องการของมนุษย์ ที่มีมาอย่างยาวนาน ผ่านภาพของสัญลักษณ์มงคลต่างๆ ที่บอกเล่าความปรารถนาต่างๆ อาทิ ภาพของปี่เซียะที่เป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง ร่ำรวยตามความเชื่อของชาวจีน หรือครุฑซึ่งเป็นตัวแทนของความเป็นอมตะ และแข็งแรง เป็นต้น เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วจึงพบเจอกับความบิดเบี้ยวภายในของมนุษย์อันมีที่มาจากความอยาก รวมตัวกันภายในพื้นที่ แห่งหนึ่งซึ่งเป็นภาพสะท้อนที่ใกล้เคียงกันกับภาพของนรกที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของมนุษย์เหล่านี้นี่เอง

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.facebook.com/duke.gaysorn